B&Tailor: The Master of Korean Tailoring Since 1967

อีกหนึ่งประเทศที่เพื่อนๆอาจจะไม่ทราบว่าเค้ามีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับช่างฝีมือในการตัดสูทและแจ็คเก็ตมายาวนาน เรียกได้ว่าเดินทางคู่ขนานมากับประเทศญี่ปุ่นเลยนั่นก็ก็คือประเทศเกาหลีใต้ เรามักจะคุ้นเคยหรือมีภาพจำกันว่าหากเสื้อผ้าถูกดีไซน์และผลิตที่เกาลีใต้จะต้องเป็นเสื้อผ้าที่ Trendy มีความเป็น Streetwear หรือต้องเป็นเครื่องแต่งกายที่ได้รับความนิยมจากดาราและนักร้องในอุตสาหกรรม K-Pop เท่านั้น

หากเพื่อนๆศึกษาและติดตาม Tailor ที่มีผลงานโดดเด่นจากทั่วโลกก็จะเห็นได้เลยครับว่า ณ ปัจจุบันมี Tailoring House จากเกาหลีใต้ติดอยู่ในอันดับท็อปๆเสมอเคียงคู่มากับช่างจากประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นทั้งในอุตสาหกรรมการผลิตแบบ Ready-To-Wear จนไปถึงการสั่งตัดกับช่างแบบ Bespoke ซึ่งเทียบชั้นได้กับงานผลิตจากอิตาลีเลย

ต้องเท้าความกลับไปในช่วงปี 1980 เพราะเป็นยุคที่คำว่า “Craftsmanship & Quality” รวมไปถึง “Handmade” เริ่มกลับมาเป็นปัจจัยหลักที่ผู้คนใช้ในการตัดสินว่าสินค้าชิ้นนั้นๆคุ้มค่าคุ้มเงินที่จะซื้อหรือไม่ สำหรับในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายผู้ชายไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ต แจ็คเก็ต กางเกง สูท รองเท้าหนัง ไปจนถึงกระเป๋าและ Accessory ต่างๆก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ผู้คนโหยหาที่จะได้ใช้สินค้างานคุณภาพที่ต้องอาศัยฝีมือในการสร้างสรรค์ไปจนถึงวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตต้องดีพอ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สินค้าที่มีการแสตมป์ว่า “Made in Italy” เริ่มได้รับความนิยมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  

เนื่องจากอิตาลีเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีความเป็น Original ใน Know-How แขนงต่างๆของ Menswear และมีจำนวนของช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ในการสร้างงาน Handmade มากที่สุดประเทศหนึ่งบนโลก ทำให้ประเทศอิตาลีจึงเป็นเสมือน “ประเทศครู” ที่ดึงดูดกลุ่มคนญี่ปุ่นผู้ฝักใฝ่ในการเรียนรู้และต้องการฝึกฝนศิลปะงานฝีมือแต่ละรูปแบบเข้าสู่อิตาลีและกระจายตัวกันอยู่ตามเมืองต่างๆตั้งแต่ Naples ที่อยู่ใต้สุดขึ้นไปจนถึง Milan ที่อยู่เหนือสุดของประเทศ จากเดิมนิสัยของคนญี่ปุ่นซึ่งเป็นชนชาติที่เรียกได้ว่า หากหลงใหลในเรื่องไหนแล้วเค้าจะศึกษาและทำจนสุดจนกลายเป็น Master ในด้านนั้นๆคล้ายคลึงกับคนอิตาลี

หลังจากนั้นไม่นานเรื่องนี้ก็เริ่มไปเข้าหูผู้คนในประเทศเกาหลีใต้ซึ่งในขณะนั้นกำลังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนตกงานและข้าวยากหมากแพง ทำให้มีคนจำนวนหนึ่งตัดสินใจบินไปประเทศอิตาลีเพื่อขอสมัครเป็น Apprentice ทำงานกับ Master Tailor โดยได้ค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด แต่ก็ได้เรียนรู้งานจากอาจารย์ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกาหลีใต้มีผู้คนในชาติที่มี Know-How ในการตัดเย็บสูทเช่นกัน 

ย้อนกลับมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เป็นช่วงที่กราฟ Know-How และ Infrastructure ในการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายแบบ Classic Menswear ของเกาหลีใต้พุ่งกระฉูดจนหยุดไม่อยู่จากเศรษฐกิจในประเทศที่เฟื่องฟูจากอุตสาหกรรม Entertainment และผลพลอยได้จากรากฐานธุรกิจเสื้อผ้า Fashion บวกกับการแต่งกายแบบ Classic Menswear เริ่มกลับมาได้ความนิยมไปทั่วโลกอีกครั้ง ทำให้ Local Tailor ในประเทศเกาหลีที่มีฝีมือมาช้านานเริ่มถูกค้นพบ สร้างชื่อเสียงเป็นที่โด่งดังและเริ่มได้รับการยอมรับไปทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็คือ “B&Tailor”

B&Tailor ก่อตั้งมาในปี 1967 โดย Jungyul Park ซึ่งเป็น Master Tailor ผู้พ่อของ Chad Park ชายหนุ่มที่เราน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีจากรูปใน Instagram และ Social Media Platform ต่างๆ โดย Jungyul Park ยังคงทำงานอยู่ที่ B&Tailor ในฐานะอาจารย์และผู้ดูแลงานฝีมือใน Workshop ขณะที่ Chad Park จะเป็นผู้พัฒนา Pattern และ Product Development ในปัจจุบัน B&Tailor เป็นหนึ่งใน Tailor House ที่มี Heritage เก่าแก่ที่สุด และเป็นหนึ่งในผู้ที่เปิดประตูบานแรกให้กับผู้ที่ชื่นชอบงาน Tailor-Made ทั่วโลกได้รู้จักกับงานฝีมือของช่างเกาหลีใต้ เป็นความสำเร็จที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Park ผู้พ่อซึ่งมีประสบการณ์ในงาน Craftsmanship และ Park ผู้ลูกซึ่งเข้าใจใน Modern Aesthetics และ Pattern Design เกิดเป็น Signature Look ที่ทำให้ Tailoring House เจ้านี้โด่งดังแบบฉุดไม่อยู่

สำหรับ B&Tailor ที่เกาหลีใต้จะมีทั้งงานแบบ Ready-To-Wear, Made-To-Measure และ Bespoke ซึ่งทางร้าน The Refinement ได้นำ B&Tailor แบบ Ready-To-Wear Full Canvas เข้ามาจำหน่าย โดยเป็น Exclusive Development มีตัวเลือกผ้าให้เพื่อนๆเลือกสรรกันแบบที่ไม่ซ้ำกับ Retailer อื่นๆ และทางร้านยังได้เปิดรับออเดอร์แบบ Made-To-Measure เป็นการวัดตัดและปรับสัดส่วนโดยเพื่อนๆสามารถเลือกผ้าได้เองจากเล่มผ้าทั้งหมดที่มีอยู่

หากจะให้ผมบอกเพื่อนๆว่า B&Tailor มีสไตล์แบบไหน ผมคงต้องบอกเพื่อนๆว่าเป็น B&Tailor Style เพราะเค้าได้หยิบยก Heritage รวมทั้งสไตล์มาจาก Florentine บางส่วน หยิบ Neapolitan มาบ้าง British มาบางจุด แล้วมายกเครื่องปรับโฉมใหม่ให้เป็น Contemporary Pattern ผ่านสายตาของ Korean Tailoring เกิดเป็น Signature Silhouette ที่หาได้เฉพาะใน B&Tailor เท่านั้น

การที่เราจะเข้าใจ Style Breakdown ของ B&Tailor ผมอยากให้เพื่อนๆนึกถึงการยกเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อของร่างกายท่อนบน เราต้องเล่นให้โดนกล้ามเนื้อทุกส่วนเพื่อให้ขนาดใหญ่ขึ้นไปพร้อมๆกันตั้งแต่บ่า ไหล่ แขน และอก ขณะที่ช่วงเอวและหน้าท้องจะเฟิร์มขึ้นและดูคอดลง

เพื่อนๆลองนึกภาพนี้ไว้ในใจ แล้วเรามา Breakdown ไล่กันตั้งแต่ท่อนบนจนถึงชายแจ็คเก็ต ช่วงไหล่จะ Extended เลยไหล่เราไปเยอะกว่าปกติหน่อยเพื่อสร้าง Shape ที่ทำให้ไหล่ดูผายออกและกว้างขึ้น ซึ่งไหล่แจ็คเก็ตที่เลยไหล่จริงของเราออกไปเยอะกว่าปกติที่ Tailoring เจ้าอื่นจะทำกัน เป็นกลิ่นอายของ Florentine Tailoring ทำให้บ่าดูใหญ่ขึ้นแต่ไหล่ไม่ได้ดูตก นอกจากนั้นการวางแพทเทิร์นช่วงบ่ายัง Design ออกมาทำให้บ่าของเราดูกลมขึ้น เหมือนกับเราเล่นเพาะกายแล้วช่วงบ่ามีกล้ามเนื้อเยอะขึ้นนั่นเอง 

การต่อไหล่เป็นแบบ Spalla Camicia ซึ่งได้ Heritage มาจาก Neapolitan Tailoring ช่วงแขนหรือ Sleeve จะมีขนาดที่ใหญ่กว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับ Tailoring เจ้าอื่นเช่นกัน คล้ายกับเวลาที่เราเล่นบ่าและไหล่แล้ว เราก็ต้องเล่นแขนให้ใหญ่ไปตามกันไม่เช่นนั้นก็จะดูไม่สมสัดส่วน ช่วงการต่อเส้นที่ต่อคอเสื้อกับปกหรือ Gorge Line ไม่ได้สูงมากรับกับการสร้าง Draping ที่ชัดเจน ทำให้อกของเราดูเต็มขึ้นแต่ไม่ได้ดูอกใหญ่จนผิดแปลกเกินตัว

เมื่อบ่า ไหล่ แขน และอกของแจ็คเก็ตทำให้เราดูเต็มและกล้ามแน่นขึ้นแล้ว จะส่งผลให้ช่วงเอวดูคอดลงโดยอัติโนมัติ ถัดลงมาจาก Shape เอวที่คอดก็จะมารับต่อกับช่วงสะโพกที่โค้งออกรับกับสะโพกจริงของเราและทิ้งชายผ้าไว้ที่ปลายแจ็คเก็ต กลิ่นอายนี้จะเป็นการสร้าง Shape ให้เป็นหุ่นแบบนาฬิกาทรายในรูปแบบของ British Tailoring

เพื่อนๆจะเห็นได้เลยครับว่า B&Tailor ได้หยิบ Aesthetics ที่เค้าชอบที่สุดจากแต่ละสไตล์มาตีความใหม่ให้ออกมาเป็นสไตล์ของตัวเอง โครงสร้างด้านในเป็น Full Canvas ทั้งหมดโดยไม่มีการอัดผ้ากาวหรือ Fuse เข้าไปเลย ซึ่งโดยปกติแล้ว Canvas และผ้าจะมีความสามารถในการปรับรูปทรงให้เข้ากับหุ่นของเราได้มากกว่าเดิมเมื่อสวมใส่ไปเรื่อยๆ พูดง่ายๆก็คือยิ่งใส่ยิ่งสวย ตอนแรกซื้อไปก็ว่าสวยแล้ว แต่พอใส่ไปเรื่อยๆแจ็คเก็ตจะดู “เข้าเนื้อ” รับกับตัวเราและเห็นสัดส่วนชัดมากขึ้น

หากเพื่อนๆสนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและลองแจ็คเก็ต B&Tailor ได้ที่ร้าน The Refinement ตั้งอยู่ที่ Central Embassy ชั้นสอง หากขึ้นจากฝั่งบันไดเลื่อน BTS ขึ้นมาแล้วร้านจะอยู่ทางขวามือเลย และเพื่อนๆสามารถติดตาม B&Tailor Ready-To-Wear โมเดลผ้าและสีใหม่ๆได้ที่ Instagram ของ The Refinement ครับผม