สำหรับคนอย่างผมที่เกิดในปี 1990 (โค้งสุดท้ายของการใส่สูทในชีวิตประจำวัน) เติบโตมากับยีนส์ขาเดฟและกางเกงหลุดสะโพกทรงใหญ่ได้ใจเด็กแร็ปในยุคสองพัน กางเกง Dress Trousers (หรือที่ลิ้นติดสำเนียงอเมริกันเรียกมันว่า slack) จึงเป็นเหมือนหลักฐานจากอดีตที่บ่งชี้ว่า ‘เอวธรรมชาติ’ ของคนอยู่ตรงไหน และครั้งหนึ่ง บรรพบุรุษของเราเคยใส่กางเกงเอวสูงกว่าสะดือไปมากโข
ในตำราตัดสูทโบราณมีคำว่า natural waist หรือเอวธรรมชาติ พูดง่ายๆ มันคือส่วนที่เว้าที่สุดของเอวคน บริเวณเหนือกระดูกสะโพก ใต้กระดูกซี่โครง นั่นแหละครับคือเอวของคนเรา กางเกงเอวสูงในตำราโบราณบางเล่มจึงหมายถึงกางเกงที่ขอบเอวอยู่ในระดับ natural waist ซึ่งถ้าใครเคยใส่ระยะนี้จริงๆ จะรู้ว่ามันสูงเอาเรื่องเลย
The power of ‘Dress Trouser’
แต่อย่างที่เกริ่นไปครับ ผมที่โตมากับยีนส์เอวต่ำขาเดฟ กว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ Dress Trouser เอวสูงก็ปาเข้าไปวัยมหาลัยในวันที่ต้องใส่เครื่องแบบทางการ ผมจำได้ดีเลยว่ามันคือเครื่องแบบที่ประกอบด้วยเชิ้ตนิสิตแขนยาวสีขาว กับกางเกงขายาวสีขาวทรงกระบอกตรง ซึ่งพูดตรงๆ ว่าตอนนั้นกางเกงอะไรก็ตามที่ไม่รัดน่อง และขอบเอวสูงแค่เฉียดใกล้สะดือ ผมใส่แล้วไม่มั่นใจทั้งนั้น แต่เมื่อมองย้อนไป นั่นคือกางเกงไม่กี่ตัวที่ใส่แล้ว elegant ที่สุดในช่วงวัยรุ่น
แต่ตอนนั้น ผมใส่มันเพราะต้องใส่ครับ ไม่ได้อินอะไร นั่นจึงไม่ใช่โมเมนต์ที่ทำให้ผมตระหนักถึงพลังของ Dress Trousers กว่าที่ผมจะเริ่มเข้าใจก็สมัยที่เริ่มเป็นนักเขียนใหม่ๆ ในกองบรรณาธิการนิตยสาร Elle Men Thailand สแล็กตัวแรกที่ผมเจียดเงินเดือนซื้อคือสแล็กวินเทจจากญี่ปุ่นที่ขายในร้านบังใกล้อพาร์ทเมนต์ ปากซอยเพชรบุรี 7 มันคือ Dress Trousers ผ้าโพลีเอสเตอร์ทรงกระบอกตรง ที่เอาจริงๆ ปลายขาไม่เล็กนะ แต่เพราะเนื้อผ้าเป็นโพลีแห้งกรอบ จึงทำให้จีบเดียวของมันนั้นคมกริบ เมื่อใส่และมองจากข้างหน้ามันจึง ‘หลอกตา’ ให้เห็นว่าทรงกางเกงนั้นเข้ารูปพอดีทั้งที่ปลายขากว้าง ประกอบกับจีบตรงยาวที่รีดมาผ่ากลางเท้าพอดีเป๊ะ ปลายขาเบิ้ลหนานิ้วครึ่งช่วยทิ้งน้ำหนักให้กางเกงตั้งตรง และเอวที่สูงแตะสะดือ ทุกองค์ประกอบยิ่งทำให้ขาผมเรียวยาวแต่ไม่ผิดสัดส่วน
วินาทีนั้นเองครับที่ทำให้ผมตระหนักว่า เสื้อผ้าที่ดีจะช่วยกลบจุดด้อย เสริมจุดเด่น สร้างซิลลูเอทใหม่ และทำให้คนใส่รู้สึกกับตัวเองในมุมที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
Dress Trousers ที่ดี มอบความรู้สึกนั้นได้ครับ
Play with the proportion
หลังจากนั้น ผมเสพติดมัน ผมเริ่มทดลองใส่กางเกงเดรสในสัดส่วนต่างๆ จึงพบว่า ตำราเล่มไหนก็ไม่น่าเชื่อไปมากกว่าประสบการณ์ที่ได้ลองด้วยตัวเอง และคุณ ‘เล่น’ กับสัดส่วนนั้นได้เสมอ
ตำแหน่งขอบเอว จึงไม่มีถูกหรือผิด แต่ขึ้นอยู่กับว่า คุณชอบมันไหม คุณรู้สึกสบายกับระดับความสูงแบบไหน และคุณอยากสร้างสัดส่วนระหว่างช่วงตัวกับช่วงขาให้ออกมาอย่างไร


ถ้าเป็นยีนส์ ผมชอบเอวกลางๆ อย่างยีนส์คลาสสิก (ต่ำกว่าสะดือแต่ไม่ใช่เอวต่ำ) นั่นคือสัดส่วนที่แบ่งช่วงตัวและขาให้ออกมาคล่องตัว ทะมัดทะแมง และเซ็กซี่ (ในความคิดเห็นของผม) และเพราะเอวยีนส์นั้นปิดพุงไม่มิด มันทำให้ผมตระหนักถึงสุขภาพ ออกกำลังกาย ไม่ตามใจปากและต้องควบคุมตัวเองอยู่เสมอ
แต่สำหรับ Dress Trousers นั้นต่างออกไป เพราะผมใส่มันได้ตั้งแต่เอวกลางยัน natural waist ขึ้นอยู่กับอารมณ์และยุคสมัยของกางเกงหรือสูทตัวนั้น


ความกว้างปลายขาและความยาวขาก็เป็นอีกปัจจัยที่เล่นได้เช่นกัน และมันสร้าง ‘อารมณ์’ ได้เยอะมาก บางคนอาจขัดใจที่เห็นจีบกางเกงหักเพราะขากองแบบ full-break แต่กับบางคน (และบางยุค) กางเกงที่กองมากกว่า full break อาจเป็น ‘ความงามทางเลือก’ ที่เข้ากับบุคลิกของเขาได้มากกว่า
สัดส่วนสะโพกและต้นขาก็เช่นกัน บางคนอาจรู้สึกปลอดภัยหากกางเกงตัวนั้นมีต้นขาใหญ่กว่าตัวเขามาก ขณะที่บางคนอาจชอบให้สะโพกและต้นขากระชับ เพราะมันกระฉับกระเฉง และดูเร้าอารมณ์ดี
Choices of the right pair
Dress Trousers 3 แบรนด์นี้จึงมาพร้อมสัดส่วนและสีสันที่ทั้งใส่ง่ายแต่ยังท้าทายความคุ้นเคย แบรนด์แรกคือ Calsa โรงงานทำกางเกงจากนางาซากิ ที่ครั้งนี้พัฒนาโมเดลกางเกงเพื่อ The Refinement โดยเฉพาะ ทำจากผ้าวูล 3-ply ทอโดยโรงทอผ้าเก่าแก่ของญี่ปุ่นอย่าง Kuzuri Keori ระบายอากาศได้ดี สปริงตัว ยับยาก อยู่ทรง ทิ้งตัวสวย พร้อมสัดส่วนที่กระชับช่วงสะโพกและช่วงขาที่เข้ารูปในโวลลุ่มที่เปี่ยมมีรสนิยม นี่คือกางเกงทรงคลาสสิกที่เข้าคู่กับทั้ง sport jacket ไปจนถึง workwear


ต่อมาคือ Drummers แบรนด์กางเกงจาก Trousers Maker ที่ทำเฉพาะกางเกง Made to measure และ Bespoke แต่ครั้งนี้ Drummers พัฒนากางเกง ready-to-wear ในโมเดลพิเศษสำหรับ The Refinement โดยเฉพาะ เอวสูง เส้นสายสะอาดตาโดยเฉพาะบริเวณสะโพกและชิ้นหลัง และเข้ารูปกว่า Calsa เล็กน้อย มีการใช้เทคนิกการทำกางเกงแบบ bespoke มาใช้ในโมเดลนี้ในหลายดีเทล ใช้ผ้าจาก Yamae Keori อีกหนึ่งโรงทอเก่าแก่จากนาโงย่า ซึ่งทาง Yamae Keori ทอผ้านี้ขึ้นมาสำหรับ The Refinement โดยเฉพาะ เป็นผ้าวูล 2-ply น้ำหนัก 340 กรัม ที่ทั้งโปร่ง ทิ้งตัวและพริ้วไหวในทุกมูฟเมนต์


สุดท้าย Refinement Pantaloni Sartoriali กางเกงที่ทำทุกขั้นตอนที่นาโปลี ผ้า Drapers 4-ply 370 กรัม เนื้อสัมผัสแห้ง ทิ้งตัวดี มีน้ำหนัก และเอกลักษณ์สำคัญของกางเกงตัวนี้คือทรงแบบ Full Cut ปลายขากว้าง มีพื้นที่บริเวณสะโพกและต้นขา แต่ยังรักษาทรงที่เฉียบคมเอาไว้ กางเกงตัวนี้จึงให้อารมณ์ที่ทั้งหรูหราและรีแล็กซ์ในเวลาเดียวกัน


Know your body
สิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ก่อนจะหา Dress Trousers ที่เหมาะกับตัวเองสักตัวคือ อย่าเชื่อตำรามากกว่าตัวเองครับ และคุณไม่จำเป็นต้องตามใคร
เอวสูงของคุณ กับเอวสูงของผมนั้นสูงไม่เท่ากัน
ไม่ผิดเช่นกันที่คุณอาจชอบให้ความยาวกางเกงแตะรองเท้าพอดี ขณะที่ผมชอบทิ้งปลายขาให้กองกันแบบ full-break
และที่สำคัญ จงเรียนรู้ผลกระทบที่กางเกงพวกนั้นส่งมาถึงตัวคนใส่ เฉกเช่นกิโมโนที่ทำให้ท่าเดินและ posture ของคนใส่เปลี่ยนไป ชุดสูทที่ทำให้คนใส่ต้องระแวดระวังทุกอิริยาบท (และมีสติกับตัวเองอยู่เสมอ) Dress Trousers ก็เช่นกัน เอวที่สูงของมันช่วยดันให้หลังตรงเสมอ นั่นคือพลังของเสื้อผ้าที่หล่อหลอมพฤติกรรมมนุษย์และสร้างกฎเกณฑ์การปฏิบัติตัวในแต่ละสังคม
สุดท้ายคือ แม้ว่ากางเกงพวกนี้จะช่วยกลบจุดด้อย เสริมจุดเด่นได้ แต่อย่าเสพติดคุณสมบัติข้อนี้จนละเลยที่จะดูแลตัวเอง
พูดกันตรงๆ ผมเองเคยเลือกใส่กางเกงเอวสูงเพื่อปิดและอำพรางหน้าท้อง เพราะเชื่อว่านั่นคือกางเกงที่ใส่แล้วดูผอม ทั้งที่จริงๆ แล้ว สิ่งที่ผมควรทำคือหันมาดูแลตัวเองอย่างจริงจังเสียที
ผมเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นที่เลือกทางที่ง่ายมากกว่าทางที่ยั่งยืน สุดท้ายผมพบว่า เสื้อผ้าอาจกลบจุดด้อยและเสริมจุดเด่นได้ แต่ไม่มีเสื้อผ้าชิ้นไหนที่กลบ ‘ความจริง’ ได้
นั่นคือสิ่งที่คุณต้องระลึกไว้ และหันมาใส่ใจเนื้อแท้ที่สำคัญที่สุดของสไตล์ สิ่งนั้นคือความงามของทั้งกายและใจที่เกิดจากการใส่ใจภายในของตัวเอง